โอกาสทางเทคโนโลยี: perovskite + ซิลิกอน นวัตกรรมใหม่ที่น่าจับตามอง

“Perovskite + ซิลิกอน” คือเทคโนโลยีแผงโซลาร์เซลล์แบบใหม่ที่รวมข้อดีของวัสดุสองชนิดเข้าด้วยกัน — perovskite ทำหน้าที่ดูดซับแสงในช่วงพลังงานสูง ส่วนซิลิกอนดูดซับแสงในช่วงพลังงานต่ำ ทำให้แผงชนิดนี้ผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าแผงรุ่นเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และกลายเป็นความหวังใหม่ของวงการพลังงานแสงอาทิตย์ทั่วโลก

1. ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบเดิมมาก

• ใช้หลักการ “ดูดแสงสองช่วง” โดยชั้น perovskite จับแสงพลังงานสูง ส่วนชั้นซิลิกอนจับช่วงพลังงานต่ำ แผงโซล่าทั่วไป (ซิลิกอนล้วน) มีประสิทธิภาพ ~19–23%

• แต่ tandem perovskite+ซิลิกอน ทำได้มากกว่า 30–34%

• นั่นหมายความว่า:

  • 👉 แผงขนาดเท่าเดิม สร้างไฟได้มากกว่า

  • 👉 ใช้พื้นที่น้อยลง แต่ผลิตไฟเท่ากันหรือมากกว่า

ประโยชน์: บ้าน/ธุรกิจที่มีพื้นที่ติดตั้งจำกัด จะใช้เทคโนโลยีนี้ได้คุ้มค่ากว่าเดิมมาก

2.เหมาะกับพื้นที่ร้อนจัด

• Perovskite มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิสูง และยังผลิตไฟได้ดีแม้แดดจ้า

• ต่างจากแผงบางชนิดที่ประสิทธิภาพลดลงเมื่ออุณหภูมิสูง

ประโยชน์: ระบบทำงานได้เสถียรกว่าในไทยที่อุณหภูมิสูงทั้งปี

3.ประหยัดพื้นที่ เพิ่มผลผลิตไฟฟ้า

• เนื่องจากผลิตไฟได้มากกว่าเดิมถึงเกือบ 2 เท่า จึงใช้พื้นที่หลังคาน้อยลงแต่ได้พลังงานเท่ากันหรือมากกว่า

• เหมาะสำหรับบ้าน อาคาร หรือพื้นที่จำกัด

นักวิจัยจาก University of Córdoba และ Georgia Tech พัฒนา “molecular anchor” ด้วยการปรับโครงสร้าง diamine ให้ยึดต่อชั้น perovskite ได้แน่นขึ้น ผลคือความทนทานต่อการกัดกร่อนและเสื่อมสภาพเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

โอกาสสำหรับไทย

• ไทยมีทุกปัจจัยสนับสนุน: ตลาดกำลังพัฒนา, นโยบายรัฐ, งานวิจัยพื้นฐาน ได้เริ่มทดลองจริงแล้ว

• จุดท้าทาย: ต้องรอดูสายการผลิตระดับอุตสาหกรรม, การรับรองมาตรฐาน IEC/UL, ความทนทานในสภาพร้อนชื้น

• แนะนำให้เตรียมพื้นที่ทดสอบจริง เพิ่มความร่วมมือระหว่างภาครัฐ-เอกชน-สถาบันศึกษา

สรุป: เทคโนโลยี perovskite+ซิลิกอน มีโอกาสเข้าสู่ไทยเร็วกว่าที่คาด — เริ่มจากนำเข้าโมดูลทดลองปีนี้–สองปีข้างหน้า และอาจขยายสู่ตลาดเชิงพาณิชย์เต็มตัวในช่วงปี 2026–2027 ที่มา - https://www.thecooldown.com/green-tech/energy-sage-solar-homeowners-installation-costs/