ไขข้อข้องใจความแตกต่างปั๊มซับเมอร์สและปั๊มหอยโข่ง
- Solartech Solartech
- 19 พ.ย. 2567
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 29 พ.ค.
ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์
เป็นนวัตกรรมที่นำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า เพื่อภาคการเกษตรและครัวเรือน การทำงานของปั๊มน้ำโซล่าเซลล์จะใช้แผงโซล่าเซลล์เพื่อแปลงพลังงานแสงอาทิตย์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้า โดยมีอินเวอร์เตอร์แปลงกระแสไฟฟ้าจากกระแสตรงให้เป็นกระแสสลับ หลังจากนั้นกระแสไฟฟ้าจะทำการปั๊มน้ำให้สูบขึ้นมา
ข้อดีของการใช้ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์
ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้า
เป็นทางเลือกพลังงานทดแทนที่สะอาด
มีอายุการใช้งานนาน 20 -25 ปี แต่ถ้าหากใช้แล้วเกิดการชำรุดอาจใช้ได้นาน 5 ปี
เหมาะกับเกษตรกรที่จำเป็นต้องใช้การสูบน้ำเพื่อใช้ในการปลูกพืช
สามารถใช้ได้ทั้งน้ำบาดาลที่มีน้ำลึก หรือหนองน้ำตื้น โดยเลือกใช้กำลังแรงม้าให้เหมาะสมกับความลึกระดับน้ำ
เป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับพื้นที่ห่างไกลการไฟฟ้า เพราะไม่ต้องใช้ไฟฟ้าแต่ใช้พลังงานจากดวงอาทิตย์เท่านั้น ไม่ว่าบริเวณไหนก็ใช้งานได้โดยไม่มีข้อจำกัด


ปั๊มซับเมอร์ส
เป็นปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ที่ใช้จุ่มใต้น้ำในบ่อ หรือใต้ผิวดิน เหมาะสำหรับสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อที่ขุดลึกลงไปค่อนข้างมาก ลักษณะของบ่อจะเป็นไปตามขนาดของปั๊ม ขั้นอยู่กับปริมาณน้ำและแรงดันที่ใช้หรืออาจจะแล้วแต่การออกแบบ บ่ออาจจะมีขนาด 4 นิ้ว 6 นิ้ว 8 นิ้ว เป็นรูลงไปใต้ดินเพื่อสูบน้ำขึ้นมาด้านบน
5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเลือกซื้อปั๊มซับเมอร์ส
1. ขนาดบ่อ : ดูว่าขนาดบ่อที่เราเจาะ มีขนาดความกว้างของบ่อเท่าไหร่ ซึ่ง ขนาดบ่อที่เจาะทั่วไป จะมีขนาดความกว้างตั้งแต่ 4 นิ้ว – 5 นิ้ว
2. ความลึก : ระยะความลึกของบ่อบาดาลที่เราต้องการจะหย่อนปั๊มซับเมอร์สลงไป และช่วงที่มีน้ำในบ่อบาดาลสม่ำเสมอ ซึ่ง Mr.Solartech มีข้อแนะนำ ให้ปั้มซับเมอร์สลอยสูงจากก้นบ่อประมาณ 5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ปั๊มดูดดินโคลน หรือ ทราย เข้ามาในเครื่องปั๊มซับเมอร์ เช่น หากเราขุดบ่อลึก 30 เมตร ควรจะหย่อนปั๊มลงลึกสุดได้ที่ 25 เมตร หรือควรหย่อนให้ห่างจากระดับที่เห็นผิวน้ำประมาณ 10-15 เมตรเพื่อป้องกันน้ำขาดหากเราหย่อนตื่นแรงดันของปั๊มจะสูงจึงทำให้เราได้ปริมาณน้ำมากกว่าหย่อนลึกครับ
3. ปริมาณน้ำ : ประมาณการปริมาณน้ำที่ต้องการใช้ หรือ ใช้น้ำเพื่อกิจกรรมใดบ้างเช่น ปลูกพืชยืนต้น ปลูกข้าว หากปลูกต้นยืนต้นหรือต้นไม้เช่นพวกสวนทุเรียน สวนเกษตรปลูกผักขาย แนะนำให้ใช้งานเป็นตัวปั๊มที่ไม่ต้องใช้งานปริมาณน้ำเยอะเนื่องจากพืชจำพวกนี้ไม่ต้องการน้ำมาก ส่วนจำพวก ข้าว,มัน,ไร่อ้อย รากฝอยของพืชมีจำนวนมากจึงทำให้รากดูดซึ่มเร็วจึงต้องการน้ำมากครับ
4. สถานที่ : สถานที่ติดตั้งปั๊มน้ำ ควรดูว่า เป็นบริเวณที่มีไฟฟ้าเข้าถึง หรือไม่ เพราะหากไม่มีไฟฟ้าเข้าถึง จำเป็นต้องติดตั้งเครื่องปั่นไฟ เพิ่มเติม หรือเลือกใช้งานเป็น ระบบโซลาร์เซลล์ ซึ่งต้องศึกษาเรื่องการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ และงบประมาณเพิ่มเติม
5. สอบถามช่าง : ควรสอบถามกับช่างเจาะบ่อบาดาลว่าภายในบ่อเรามีปริมาณน้ำเท่าไหร่ในการใช้งานปั๊มเพื่อไม่ให้น้ำขาดบ่อ

ข้อดี
ดูดได้ลึกสูงสุดถึง 125 เมตร
ได้ปริมาณน้ำสูงสุด 15,500 ลิตร/ชม.
กำลังวัตต์มากถึง 1500W
ไม่ต้องมีการล่อน้ำ
ใช้สูบน้ำขึ้นที่สูง สูบน้ำขึ้นแท้งค์น้ำสูง ๆ ได้
ข้อเสีย
ต้องทำการเจาะลึกให้ปั้มซับเมอร์สลอยสูงจากก้นบ่อประมาณ 5 เมตร เพื่อป้องกันไม่ให้ปั๊มดูดดินโคลนแทนน้ำ
มีราคาแพง ยิ่งระบบ AC แพงกว่า DC มาก หากการใช้งานที่ใช้น้ำน้อยทุนไม่เยอะอาจไม่คุ้ม หากมอเตอร์เสียหายจะไม่สามารถซ่อมแซมได้ และใช้กำลังไฟเยอะจึงอาจจะต้องใช้แผงโซล่าเซลล์เพิ่มมากขึ้น
ปั๊มหอยโข่ง
เป็นปั๊มที่จะมีใบพัดอยู่ภายใน และเมื่อใบพัดหมุนจะเกิดแรงเหวี่ยงน้ำส่งน้ำจากส่วนปลายใบพัดเข้าในโพรงหอยโข่ง เหมาะกับงานสูบน้ำสะอาดทั่วไปที่ต้องการปริมาณน้ำปานกลางถึงมาก โดยที่ความลึกไม่เกิน 8 เมตร และสูบส่งได้สูง เหมาะสำหรับงานสูบน้ำในสวนหย่อมหรือสวนผัก งานระบบบำบัดน้ำ ชลประทาน รดน้ำ งานสูบส่งเคมีบางชนิด
5 สิ่งที่ควรรู้ก่อนการเลือกซื้อปั๊มหอยโข่ง
1. ประเภทน้ำ : ต้องรู้ว่าของเหลวที่ต้องการสูบเป็นน้ำสะอาด น้ำเสีย หรือน้ำที่มีสารเคมี เพื่อให้เลือกวัสดุของปั๊มที่ทนทานต่อของเหลวนั้น ๆ เช่น สแตนเลสสำหรับน้ำที่มีสารกัดกร่อน
2. อัตราการไหล : ต้องทราบปริมาณน้ำที่ต้องการสูบต่อชั่วโมง หรือ ลิตร/นาที (L/min) หรือ ลูกบาศก์เมตรชั่วโมง (m³/h) เพื่อเลือกปั๊มที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน
3. ความสูง : ต้องทราบระยะความสูงที่น้ำจะถูกสูบขึ้นไป เช่น ต้องสูบน้ำขึ้นตึกหลายชั้นหรือส่งน้ำไปที่ระยะไกล จะต้องใช้ปั๊มที่ head หรือความดันในการส่งน้ำที่เพียงพอ
4. มอเตอร์ : มอเตอร์ที่ติดตั้งมากับปั๊มมีกำลังเท่าไหร่ เช่น กิโลวัตต์ (kW) หรือ แรงม้า (HP)
กำลังมอเตอร์ที่เหมาะสมจะทำให้ปั๊มทำงานได้มีประสิทธิภาพและช่วยลดการใช้พลังงานเกินจำเป็น
5. ขนาดท่อ : ต้องทราบขนาดของท่อเข้า-ออกของปั๊มเพื่อให้เลือกท่อที่ตรงกัน รวมถึงเลือกอุปกรณ์ต่อเข้ากับปั๊มได้อย่างเหมาะสม

ข้อดี
ลักษณะโครงสร้าง และส่วนประกอบไม่ซับซ้อน
ไม่มีวาล์วหรือลูกสูบ
ดูแลรักษาได้ง่าย อะไหล่หาซื้อง่าย
ราคาถูก หาซื้อง่าย
ได้ปริมาณน้ำประมาณ 1500-3000 ลิตร / ชั่วโมง
ข้อเสีย
ก่อนจะสูบน้ำต้องมีการล่อน้ำ ถ้าหากว่าเครื่องสูบน้ำนั้นไม่มีลิ้นหัวกระโหลก หรืออุปกรณ์ล่อน้ำอัตโนมัติ
สูบน้ำได้ไม่เกิน 8 เมตร โดยวัดจากเครื่องลงไปยังผิวน้ำ
ดูดบ่อลึกได้ไม่เกิน 8 เมตร ยกเว้นเครื่องปั้มน้ำหอยโข่งชนิดเจ็ตคู่ที่สามารถสูบได้ลึกกว่า และกินพลังงานค่อนข้างสูง หากนำระบบโซล่าเซลล์มาใช้งานร่วมกันอาจจะต้องใช้แผงโซล่าเซลล์หลายแผงเพื่อให้สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพียงพอ
4 ขั้นตอนดูแลอุปกรณ์ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์

4 ขั้นตอนดูแลอุปกรณ์ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ อุปกรณ์โซล่าเซลล์โดยทั่วไปจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 20-25 ปี หากใครที่ลงทุนติดตั้งระบบโซล่าเซลล์แล้วนั้น การบำรุงรักษาอุปกรณ์โซล่าเซลล์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น แผงโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ ตัวแปลงกระแสไฟฟ้าและระบบความคุมต่าง ๆ อย่างถูกต้อง จะช่วยให้มีอายุการใช้เพิ่มขึ้นได้ถึง 40 ปี เลยทีเดียว ดังนั้น Mr.Solartech จะมาแนะนำการดูแลรักษาอุปกรณ์ปั๊มโซล่าเซลล์เพื่อต่ออายุการใช้งานกัน
1. วิธีการดูแลรักษาแผงโซล่าเซลล์
หมั่นเช็ดทำความสะอาดตัวแผงโซล่าเซลล์ จากมูลสัตว์หรือคราบฝุ่นสกปรกที่สะสมเอาไว้
การเช็ดทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์จะต้องใช้น้ำเย็นทำความสะอาดเท่านั้น ห้ามใช้น้ำร้อนโดยเด็ดขาด
ห้ามใช้ผงซักฟอกหรือผงทำความสะอาดอื่น ๆ เพื่อใช้ทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์ เพราะอาจจะทำให้แผงโซล่าเซลล์เกิดรอยได้ ควรใช้น้ำยาทำความสะอาดสูตรน้ำเพื่อถนอมแผงโซล่าเซลล์ให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น
หมั่นตรวจเช็คสภาพของตัวแผงโซล่าเซลล์ว่ายังมีสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ เช่น รอยร้าว รอยแตก การเกิดฝ้าบริเวณผิว และมีรอยรั่วของน้ำภายในแผงโซล่าเซลล์
2. วิธีการดูแลรักษาปั๊มน้ำโซล่าเซลล์
ในทุก ๆ วันให้สังเกตปั๊มน้ำโซล่าเซลล์และตรวจเช็ก ความดันทางท่อดูดและท่อจ่าย การรั่วของ Seal ดู Load ของมอเตอร์ ดูระดับเสียงและการสั่นสะเทือน การหล่อลื่นและตัวช่วยในการหล่อลื่น
ทุก ๆ 6 เดือนให้ตรวจสอบ การตั้งศูนย์ระหว่างตัวปั๊มน้ำโซล่าเซลล์และต้นกำลัง การเติมน้ำมันหรือจารบีให้หล่อลื่น ตรวจเช็กท่อทางดูดมีรอยรัวหรือไม่
ในทุก ๆ ปี ควรหมั่นตรวจดูตามเพลา ว่ามีการรั่ว การสึกของปอกเพลา ดูช่องว่างระหว่างใบพัดกับแหวนกันสึก ตรวจและปรับเกจ์วัดที่ใช้กระแสไฟฟ้า การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันที่ใช้ในการหล่อลื่น
ไม่เปิดปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ทิ้งไว้เมื่อไม่ได้ใช้งานนาน ๆ และปิดหัวก๊อกให้สนิททุกครั้ง
ควรติดตั้งปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ให้สามารถเก็บและจ่ายน้ำตามแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อลดการใช้พลังงานในการสูบน้ำ
3. วิธีการดูแลรักษาระบบสายไฟและระบบเชื่อมต่อต่าง ๆ
ตรวจสอบความสมบูรณ์ของสายไฟว่ามีการชำรุดหรือไม่ เช่น รอยร้าว รอยแตก รอยกัดกร่อนต่าง ๆ รอยไหม้ และสภาพของสายดิน
หากเกิดมีประกายไฟตอนสับสวิตช์ไฟก็ให้รีบแจ้งช่างให้เข้ามาซ่อมบำรุงโดยด่วนเพื่อความปลอดภัย
4. วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่
ตรวจดูปริมาณสารละลายอิเล็กโทรไลต์หากเหลือน้อยให้ทำการเติมสารละลายเข้าไปเพิ่มให้อยู่ในระดับที่ใช้งานปรกติ
ทำความสะอาดรอยกัดกร่อนบริเวณขั้ว ซึ่งจะมีลักษณะเป็นคราบสีขาว ๆ (ขี้เกลือ) เดือนละ 1 ครั้ง
ตรวจเช็กระดับแรงดันไฟฟ้าของแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอ หากเกิดสิ่งผิดปกติ ให้ทำการรีบซ่อมบำรุง หรือเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นทันที
สำหรับเกษตรกรท่านใดที่สนใจเกี่ยวกับปั๊มโซล่าเซลล์ แบบปั๊มซัมเมอร์ส และแบบปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ Solartech Center เป็นผู้นำด้านบริการ และจัดจำหน่าย อุปกรณ์ระบบโซล่าเซลล์ครบวงจร ทั้งปั๊มซัมเมอร์ส ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์ ปั๊มหอยโข่งโซล่าเซลล์ รวมไปถึงระบบ โซล่าฟาร์ม โซล่ารูฟท๊อป พลังงานทดแทนแบบครบวงจร สินค้าคุณภาพดีพร้อมให้บริการ และติดตั้งด้วยทีมงานมืออาชีพพร้อมให้คำปรึกษาทุกๆ ท่านในเรื่องโซล่าเซลล์
การเลือกแผงโซลาร์เซลล์ให้เหมาะกับ Pump น้ำ

การเลือกแผงโซลาร์เซลล์จะต้องคำนึงถึงความน่าเชื่อถือของบริษัทที่จัดจำหน่าย ความน่าเชื่อถือของโรงงาน คุณลักษณะของแผงโซลาร์เซลล์ การรับประกันและการดูแลหลังการขายด้วย โดยปัจจุบันชนิดของแผงโซลาร์เซลล์ที่นิยมใช้งานมี 2 แบบ ได้แก่ แบบ Mono Crystalline และ Poly Crystalline
แบบ Mono Crystalline จะผลิตกระแสไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20 เปอร์เซ็นต์และประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง
แบบ Poly Crystalline มีประสิทธิภาพในการแปลงกระแสไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 13-16 เปอร์เซ็นต์ใช้งานในที่อุณหภูมิสูงได้ดี มีราคาถูกกว่าและหาง่ายในท้องตลาด
Commentaires