RAPID SHUTDOWN (ระบบหยุดการทำงานฉุกเฉิน)
- Chanyanuch Chuenchom
- 2 ม.ค.
- ยาว 1 นาที

Rapid Shutdown ในระบบโซล่าเซลล์คืออะไร?
Rapid Shutdown เป็นระบบที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงดันไฟฟ้าจากระบบโซล่าเซลล์ให้อยู่ในระดับที่ปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟไหม้ หรือการบำรุงรักษา โดยสามารถปิดระบบไฟฟ้าของแผงโซล่าเซลล์อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพื่อป้องกันอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สิน
Rapid Shutdown เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 ในมาตรฐาน National Electrical Code (NEC) ประเทศสหรัฐอเมริกา
โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้นักผจญเพลิงสามารถหยุดการจ่ายกระแสไฟฟ้า DC จากแผงโซล่าร์เซลล์ได้อย่างง่ายดาย
เพื่อให้แน่ใจว่าบนหลังคาของอาคารมีสภาพที่ปลอดภัยในระหว่างเกิดเพลิง
---
หลักการทำงานของ Rapid Shutdown
1. ควบคุมแรงดันไฟฟ้า
- เมื่อมีการเปิดใช้งาน (ผ่านปุ่มฉุกเฉินหรือสัญญาณอัตโนมัติ) ระบบจะลดแรงดันไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ให้ต่ำกว่า 30 โวลต์ภายใน 30 วินาที ซึ่งเป็นระดับที่ปลอดภัยสำหรับบุคลากรที่ปฏิบัติงานใกล้เคียง
2. การส่งสัญญาณ
- ระบบมักจะทำงานร่วมกับ ตัวควบคุมสัญญาณ (Transmitter) ที่ติดตั้งใกล้แผงโซล่าเซลล์ และ โมดูลปิดระบบ (Shutdown Module) ที่ติดตั้งบนแต่ละแผง
- เมื่อรับคำสั่ง ระบบจะหยุดการผลิตไฟฟ้าทันที และตัดการส่งไฟฟ้าจากสาย DC ที่เชื่อมต่อกับแผง
3. ควบคุมด้วย Inverter หรือ Controller
- ระบบ Rapid Shutdown มักเชื่อมต่อกับ Inverter หรือ Controller เพื่อให้สามารถควบคุมการทำงานได้ทั้งในระดับแผง (Module-Level) และระดับระบบทั้งหมด (System-Level)

1. วงจรโซลาร์เซลล์ที่อยู่นอกขอบเขต เมื่อมีการเปิดการทำงาน rapid shutdown จะต้องสามารถลดแรงดันไฟฟ้า DC ลงเหลือไม่เกิน 30 โวลต์ภายใน 30 วินาที
2. สำหรับวงจรโซลาร์เซลล์ที่อยู่ภายในขอบเขต จะต้องสามารถลดแรงดันไฟฟ้า DC ลงเหลือไม่เกิน 80 โวลต์ภายใน 30 วินาที
---
ความสำคัญของ Rapid Shutdown
1. ความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
- ป้องกันการเกิดไฟฟ้าช็อตในกรณีที่นักดับเพลิงหรือช่างไฟฟ้าต้องทำงานในพื้นที่ที่มีระบบโซล่าเซลล์
2. ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร
- ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์ที่อาจทำให้เกิดไฟไหม้เพิ่มเติม
3. ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย
- ระบบ Rapid Shutdown กลายเป็นมาตรฐานที่บังคับใช้ในหลายประเทศเพื่อความปลอดภัย
---
ข้อบังคับและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1. มาตรฐาน NEC (National Electrical Code) 2017 และ 2020
- ในสหรัฐอเมริกา ระบบโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนอาคารต้องมีระบบ Rapid Shutdown เพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย
- ต้องลดแรงดันไฟฟ้าในสาย DC ให้ต่ำกว่า 30 โวลต์ภายใน 30 วินาทีหลังจากสั่งปิดระบบ
2. ข้อกำหนดในยุโรปและประเทศอื่น ๆ
- ประเทศในยุโรปและออสเตรเลียกำลังเริ่มปรับใช้ข้อกำหนดที่คล้ายกับ NEC เพื่อความปลอดภัย
- ในประเทศไทย แม้ยังไม่มีข้อบังคับชัดเจน แต่การติดตั้ง Rapid Shutdown เริ่มได้รับการสนับสนุนเพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัย
---
ข้อดีและข้อควรพิจารณา
ข้อดี
- เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- ลดความเสียหายเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล
ข้อควรพิจารณา
- มีต้นทุนเพิ่มขึ้นในการติดตั้ง
- อาจต้องมีการอบรมบุคลากรเพิ่มเติมเพื่อใช้งานระบบ
---

ระบบผลิตพลังไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ที่สภาวะปัจจุบันมีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลง ทั้งในด้านประสิทธิภาพ ความสะดวกและความปลอดภัย ทางสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยสาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จึงเห็นควรให้มีการปรับปรุง มาตรฐานการติดตั้งระบบผลิตพลังไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ฉบับ พฤศจิกายน พ.ศ.2559 เป็นฉบับ พ.ศ.2565 ในปัจจุบัน
ประเด็นสำคัญของการมาตรฐานฉบับปรับปรุงนี้ ได้แก่
1. ขยายขอบเขตการเชื่อมต่ออุปกรณ์ ที่รวมถึงระบบจัดกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่ไฟฟ้า (battery energy storage system, BESS) อุปกรณ์แปลงไฟฟ้าเพื่อประจุและคายประจุไฟฟ้าสำหรับแบตเตอรี่
2. ขยายขอบเขต PV array ที่ติดตั้งใช้งานบนอาคารต้องมีค่า VOC ARRAY สูงสุด ดังนี้
แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไม่เกิน 1,000 โวลต์ สำหรับอาคารที่พักอาศัย
แรงดันไฟฟ้ากระแสตรงไม่เกิน 1,500 โวลต์ สำหรับอาคารอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย
3. เพิ่มข้อบังคับการติดตั้งอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่หยุดทำงานฉุกเฉิน (rapid shutdown)
---
#โซลาร์เซลล์ #พลังงานแสงอาทิตย์ #พลังงานสะอาด #solarcell #Solar #โซล่าเซลล์ลดค่าไฟ #solarrooftop #ไฟฟ้า #วิศวะ #engineer #ช่างรับเหมา #ประหยัดไฟ #ความรู้รอบตัว #ผ่อนโซล่าเซลล์ #SLC #Solartechcenter #rapidshutdown #ไฟไหม้แผงโซล่าเซลล์ #ไฟไหม้โซล่าเซลล์ #มาตรฐานความปลอดภัย #NEC