โซล่าเซล พลังงานสะอาด ลดค่าไฟ ชาร์จรถไฟฟ้าได้ฟรี ๆ
- Solartech Solartech
- 19 พ.ย. 2567
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 30 พ.ค.
รถยนต์ไฟฟ้า EV ชาร์จรถด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ทางรอดไม่ใช่ทางเลือก ต้องใช้ไฟบ้านแบบไหน? จ่ายค่าไฟเท่าไหร่?

Credit Pic: https://www.electrosolaribiza.com/blog/rolec-unveils-new-pv-powered-electric-vehicle-charger-range/
หลังจากสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ที่รุนแรงในไทย ทำให้หลายคนหันมาสนใจพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น ที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันราคารถยนต์หยิบจับกันได้ง่ายมากขึ้น มีงบล้านต้น ๆ ก็สามารถซื้อมาใช้งานได้แล้ว..
สำหรับใครที่กำลังเล็งจะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า EV กันอยู่ เราต้องเตรียมระบบไฟในบ้านให้รองรับการชาร์จไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งหากใครกำลังงง ๆ กับข้อมูลที่อ่านมา วันนี้เราได้รวบรวมเนื้อหาเป็นภาษาที่เข้าใจง่าย ๆ รวมถึงความคุ้มค่าในการลงทุน คุ้มหรือไม่?
ทำความรู้จักรถยนต์ไฟฟ้า Electric Vehicle (EV)
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (Electric Vehicle) หรือเราเรียกกันสั้นๆว่า “รถ EV” พูดง่าย ๆ ก็คือรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าแทนการใช้งานของเครื่องยนต์ ซึ่งปรับตัวจากการใช้ เครื่องยนต์ดีเซลหรือเครื่องยนต์เบนซินเพียงอย่างเดียว มาพัฒนาเครื่องยนต์ และแบตเตอรี่ไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้กลไกการทำงานลดลง ไม่ต้องหมั่นดูแลเครื่องยนต์ และไม่มีไอเสีย ควันดำ จากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง ในปัจจุบันรถยนต์ EV สามารถแบ่งตามเทคโนโลยีออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. รถยนต์ไฟฟ้าแบบไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle : HEV) เป็นรถยนต์ที่ใช้พลังงานผสมผสานระหว่าง เชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานไฟฟ้าจากการแบตเตอรี่ รถยนต์ประเภทนี้จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงต่ำกว่าแบบใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว เนื่องจากเมื่อมีการเหยียบเบรกรถ บางส่วนของพลังงานจะถูกจัดเก็บไว้ในแบตเตอรี่ และพลังงานที่เก็บไว้สามารถใช้ในภายหลังเพื่อการขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมกับการทำงานของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้
2. รถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (Plug-in Hybrid Electric Vehicle : PHEV) รถยนต์ประเภทนี้มีระบบ น้ำมันเชื้อเพลิง และระบบไฟฟ้าเช่นเดียวกับรถยนต์ไฮบริด แต่สามารถเสียบปลั๊กชาร์จไฟได้จากภายนอก หรือ Plug-in ทำให้เมื่อเสียบชาร์จพลังงานแล้วรถก็สามารถวิ่งไปได้ในระยะทางที่มากกว่าระบบไฮบริดแบบเดิม และแบตเตอรี่ที่ใช้ ยังสามารถชาร์จไฟเพิ่มเพื่อกักเก็บประจุได้ตามต้องการ และเมื่อแบตเตอรี่หมดลงรถจะทำงานคล้ายกับระบบแบบไฮบริด (HEV )
3. รถยนต์ไฟฟ้าแบบใช้แหล่งพลังงานไฟฟ้าอย่างเดียวในการขับเคลื่อน (Plug-in Electric Vehicles : PEVs) รถยนต์ไฟฟ้าประเภทนี้จะคล้ายคลึงกับรถยนต์ไฟฟ้าแบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV) เพียงแต่จะมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักเพียงอย่างเดียว เมื่อแบตเตอรี่หมดลงจะต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จประจุใหม่
การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีกี่แบบ? ใช้เวลานานเท่าไหร่?
การชาร์จแบบธรรมดา (Normal Charge) : เป็นการชาร์จไฟฟ้าจากตัวเต้ารับโดยตรง โดยขนาดมิเตอร์ขั้นต่ำที่แนะนำคือ 30(100)A และเต้ารับต้องติดตั้งใหม่เฉพาะการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเท่านั้น โดยเป็นการใช้ไฟบ้านที่เป็นกระแสสลับ (AC) ที่ใช้ระยะเวลาในการชาร์จประมาณ 12-16 ชม.
การชาร์จแบบรวดเร็ว (Double Speed Charge) : เป็นการชาร์จจากเครื่องชาร์จ EV Charger เป็นตู้ชาร์จไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Charging) ที่ช่วยให้ชาร์จพลังงานไฟฟ้าในแบตเตอรี่รถให้เต็มเร็วยิ่งขึ้น โดยเหลือเวลาชาร์จประมาณ 6-8 ชม.
การชาร์จแบบด่วน (Quick Charge) : เป็นการชาร์จไฟฟ้ากระแสตรง (DC Charging) ตรงเข้าแบตเตอรี่โดยตรง ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้า จาก 0-80% ได้ภายในเวลา 40-60 นาที นิยมใช้ตามสถานีบริการนอกบ้าน ที่ต้องการความรวดเร็วในการชาร์จ แต่ก็มีข้อเสียคือทำให้ตัวแบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ได้แก่ CHAdeMo, GB/T และ CCS เป็นต้น
ข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ไฟฟ้า EV
ข้อดีของรถ EV รถยนต์ไฟฟ้า
1.ประหยัดค่าน้ำมัน - การใช้รถยนต์ไฟฟ้า ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน รวมถึงค่าน้ำมันเครื่องและค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ เพราะเป็นรถที่ไม่มีเครื่องยนต์แต่จะใช้ระบบการทำงานด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่
2.ช่วยลดควันพิษ และมลภาวะทางอากาศ - เพราะรถยนต์ไฟฟ้าใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์และแบตเตอรี่ จึงไม่มีการสันดาปภายใน หรือการเผาไหม้เชื้อเพลิงในเครื่องยนต์แบบรถยนต์ทั่วไป
3.เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน - นอกจากจะช่วยลดมลภาวะทางอากาศแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ายังช่วยลดมลภาวะทางเสียง เครื่องยนต์ทำงานเงียบ ไม่มีเสียงรบกวน
4.สามารถชาร์จไฟได้ตามต้องการ - เราสามารถชาร์จไฟหรือชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าได้ตามต้องการ ที่สถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตามจุดบริการต่าง ๆ หรือแม้แต่ที่บ้านของเรา (อาจมีอุปกรณ์เสริมในการชาร์จ) ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก
5.ไม่ต้องเสียเวลาไปปั๊มน้ำมันเพราะสามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน - การต่อคิวเพื่อเติมน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงเป็นปัญหากวนใจหลายคน แต่รถยนต์พลังงานไฟฟ้านั้น สามารถชาร์จแบตได้ที่บ้าน ซึ่งสามารถชาร์จได้ระหว่างที่นอนหลับ เมื่อตื่นเช้ามารถก็จะอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียเวลาที่สถานีบริการน้ำมันอีกต่อไป
ข้อเสียของรถ Electric Vehicle
1.ราคาแพง ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีอยู่มาก แต่ข้อเสียสำหรับรถไฟฟ้าคือยังมีราคาค่อยข้างแพง แต่ก็มีแนวโน้มถูกลงเรื่อย ๆ
2.สถานบริการชาร์จไฟที่น้อยอยู่ แน่นอนว่ารถแบบ EV เป็นอะไรที่ใหม่อยู่ ทำให้ยังมีสถานบริการชาร์จไฟน้อยอยู่
3.ต้องชาร์จถี่และเวลาในการชาร์จนาน ถึงแม้ว่านักพัฒนารถไฟฟ้าจะพัฒนารถอยู่เรื่อย ๆ แต่ปัญหาที่มีสำหรับรถฟ้า ก็ยังคงเป็นเรื่องของระยะเวลาในการชาร์จอยู่ที่ ซึ่งไม่ได้ใช้เวลาเร็วเหมือนน้ำมันที่เติมเพียง 2-3 นาที ก็สามารถเติมน้ำมันได้เต็มถัง ในขณะที่รถไฟฟ้าต้องใช้เวลาชาร์จนานถึง 30 นาที ถึง 4 ชั่วโมง เลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับกระแสไฟฟ้าที่จ่ายและประเภทของแบตเตอรี่
Credit :
https://erdi.cmu.ac.th/?p=2956
https://www.modify.in.th/20997
Comments